วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำรัส กลิ่นหนู รองอธิการบดี ผู้กำกับดูแลงานอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นำคณาจารย์ นักวิจัย และบุคลากร ลงพื้นที่ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมกิจการและติดตามความก้าวหน้าการทำงานร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากหวาย โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชุมชน พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น
การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนผลสำเร็จของการทำงานร่วมกันต่อเนื่องกว่า 3 ปี ระหว่างชุมชนและมหาวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่ปีแรกที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด ด้วยกระบวนการแปรรูปลำไย ได้แก่ การยืดอายุการเก็บรักษาน้ำลำไยด้วยเทคนิคพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) และ การอบแห้งลำไยด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ผศ.ดร.พรหทัย พุทธวัน จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ร่วมและช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตในท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
ต่อมาในปี 2567 ชุมชนได้เสนอความต้องการ “เครื่องผ่าหวาย” และการออกแบบผลิตภัณฑ์จากหวายรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและทนทาน เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด มรภ.เชียงรายจึงส่งทีมวิจัย ได้แก่ ผศ.วิบูลย์พร วุฒิคุณ และ ผศ.ดร.ชัชชัย วรพัฒน์ จากคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ร่วมพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวจนสำเร็จ ทั้ง เครื่องผ่าหวายที่มีประสิทธิภาพสูง และ ต้นแบบผลิตภัณฑ์หวายสมัยใหม่ ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์และความคงทน ป้องกันปัญหามอดกัดกิน
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ส่งมอบเครื่องผ่าหวาย พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการใช้งานและการผลิตให้กับชุมชน ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้รวดเร็วขึ้น และได้ปริมาณมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเตรียมร่วมพัฒนาต่อยอด เพื่อให้เครื่องมือมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นในอนาคต สร้างความพึงพอใจแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นอย่างมาก
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมสู่พื้นที่ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดเชียงราย
การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างของการพัฒนาพื้นที่ตามพันธกิจบริการวิชาการสู่สังคมอย่างแท้จริง ช่วยต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำไปสู่การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน